วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554

บทความ

ผมอยู่ในยุคที่กำลังหลงทาง...
และก็ไม่เชื่อว่า
ผมจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้
คงเป็นเรื่องน่าตกใจถ้าจะพูดว่า
“ความสุขที่แท้จริงจากภายในคือคำตอบ”
นั้นมันเป็นเรื่องไม่จริง
ที่ว่า “เงินเท่านั้นที่ทำให้ผมมีความสุข”
ดังนั้นในอีกสามสิบปีผมจะบอกลูก ๆ ว่า
พวกเขาไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด
ผมจะบอกเจ้านายว่า
ผมจะให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน
งาน
สำคัญกว่า
ครอบครัว
ผมอยากจะบอกว่า
ในอดีต
ครอบครัวเคยอยู่ด้วยกัน
แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว
เดี๋ยวนี้โลกเราเน้นความสะดวกสบาย
มีคนเคยบอกว่า
อีกสามสิบปี ผมจะเลี้ยงฉลองครบรอบสิบปีที่หย่าเมีย
และผมก็ไม่เชื่อว่า
ผมจะได้อยู่ในโลกที่ทุกคนใฝ่ฝัน
ในอนาคต
การทำลายสิ่งแวดล้อมจะเป็นเรื่องปกติ
พูดไม่ได้แล้วว่า
พวกเราให้ความสำคัญกับโลกใบนี้
และก็จะชัดเจนว่า
คนรุ่นผมนั้นขี้เกียจและเฉื่อยชาแฉะแบะ
จะโง่มากถ้าคิดว่า
โลกนี้ยังมีหวัง...

อ้างอิงจาก http://www.ruktv.com/%E0%B8%95%E0%B8%B510-27-10-52/

Lost Generation
I am part of a lost generation
and I refuse to believe that
I can change the world
I realize this may be a shock but
“Happiness comes from within.”
is a lie, and
“Money will make me happy.”
So in 30 years I will tell my children
they are not the most important thing in my life
My employer will know that
I have my priorities straight because
work
is more important than
family
I tell you this
Once upon a time
Families stayed together
but this will not be true in my era
This is a quick fix society
Experts tell me
30 years from now, I will be celebrating the 10th anniversary of my divorce
I do not concede that
I will live in a country of my own making
In the future
Environmental destruction will be the norm
No longer can it be said that
My peers and I care about this earth
It will be evident that
My generation is apathetic and lethargic
It is foolish to presume that
There is hope.

อ้างอิงจาก http://atcloud.com/stories/69318

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น